การเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนและฝน (มิถุนายน – ตุลาคม) การมาของพายุลูกแล้วลูกเล่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่ตามมาก็คือเรื่องการเดินทาง โดยเฉพาะเครื่องบิน ไฟลท์บินทั้งหลายก็มักจะเลื่อนเวลา หรือยกเลิกเพื่อหลบพายุกัน
ทำให้อดนึกถึงตอนที่ตัวเองโดนตอนพายุ JEBI ไม่ได้ เลยขอเอามาเขียนไว้ ว่าควรจะทำอย่างไรถ้ามาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้กันครับ
ช่วงท้ายของทริปโอซาก้า ผมย้ายที่พักมาพักห้อง Airbnb ใกล้ย่าน Namba เพื่อที่ขากลับไปสนามบินจะได้สะดวก ๆหน่อย
ตอนไปรับกุญแจ Host ก็ทักแล้วว่า พรุ่งนี้คุณจะกลับได้เหรอ ? พายุกำลังจะเข้าแล้วนะ
ผมก็ตอบไปว่าไม่น่าจะมีปัญหา สายการบินยังไม่ได้แจ้งอะไรเลยนะ
เข้าห้องวางของเรียบร้อย ก็ออกไปเที่ยวตามปกติ ไม่ได้สนใจข่าวพายุอะไร
จนคืนนั้น ประมาณ 5 ทุ่มกว่า ก็มี SMS เข้ามา ตามรูป
โดนซะแล้ว ประสบการณ์ที่โดนไฟลท์ดีเลย์ครั้งแรก เอาแล้วไง ยืนมองหน้ากับภรรยาพลางคิด นี่เราต้องทำอะไรบ้างกับการเปลี่ยนแปลงนี้เนี่ย
อย่างแรกที่ต้องคิดเลย คือที่พัก เพราะจากเดิมที่จะต้องกลับ 6 โมงเย็น กลายเป็นต้องกลับตอนเช้าตรู่ของอีกวัน แล้วจะไปนอนที่ไหน
ครั้นจะไปนอนที่สนามบินเลยก็คงไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ลูกงอแงแน่ ๆ
ขณะกำลังเครียดเรื่องที่พัก ก็มี SMS มาอีกครั้ง
ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะมีการเลื่อนเวลาไปอีก ถ้านั่งรถไฟเที่ยวแรกจาก namba ไปสนามบินก็ยังทันอยู่
เลยรีบส่งข้อความหา Host เพื่อขอพักต่ออีกคืน
โชคดีที่ไม่มีแขกเข้าพักต่อ Host เลยให้พักได้อีกหนึ่งคืน แถมคิดเพิ่มเงินแค่ 50% เท่านั้น (Host ใจดีมาก)
เพราะถ้าพักที่เดิมไม่ได้ เราก็ต้องมานั่งหาที่พักใหม่อีก ซึ่งก็ต้องมานั่งลุ้นว่า จะมีที่ไหนให้เข้าพักได้บ้าง และราคาจะแรงขนาดไหน เพราะเป็นการจองแบบกระชั้นชิดขนาดนี้
แต่เคยลองเข้าไปดูดีลแบบ Last Minute Deal ของ Booking แล้วก็อยู่ในเกณท์ที่รับได้อยู่ กับราคาและเวลาที่จองขนาดนี้ ลองเข้าไปดูได้ที่นี่
ไม่นานก็มี E-mail ส่งมายืนยันการเปลี่ยนแปลงเวลาอีก คราวนี้มั่นใจละ เวลาคงไม่เลื่อนไปกว่านี้แน่
ต่อไป ก็มาจัดการตามเรื่องต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเวลากลับ
พอ list ออกมายาวกว่าที่คิดไว้แหะ
- โทรไปแจ้งบริษัทประกัน ที่เราทำประกันการเดินทางไว้ว่า การชดเชยจากเหตุเที่ยวบินล่าช้านั้น มีอะไรบ้าง ครอบคลุมหรือไม่ และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
- โทรหา HR เพิ่อแจ้งลางาน
- โทรหาเพื่อนร่วมงาน เพื่อฝากงาน
- โทรหาลูกค้า เพื่อเลื่อนนัด
- โทรบอกที่บ้านว่าเลื่อนไฟลท์กลับ ไม่ต้องเป็นห่วง
- โทรหาครูประจำชั้นของลูก เพื่อแจ้งลาโรงเรียน
- โทรแจ้งที่ Valet Parking สนามบินดอนเมือง เพื่อแจ้งเลื่อนไฟลท์กลับ เค้าจะได้ไม่ขับรถออกมารอเวลาเดิม (เสียค่าจอดเพิ่มอีกวันเลย -_-“)
- โทรแจ้ง 4WiFi เพื่อแจ้งเรื่องคืน Pocket WiFi ล่าช้า ไม่ตรงตามกำหนดเดิม เจ้าหน้าที่รับเรื่อ พร้อมแจ้งว่าไม่มีปัญหาและขอไม่คิดเช่าเพิ่มของวันที่ส่งคืนล่าช้าด้วย เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย (แอบดีใจ ไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม)
ทั้งหมดนี้เนื่องจากเราเช่า Pocket WiFi มา ทางจัดการทุกอย่างที่ list มานั้นสะดวกมาก เพราะว่าใช้ WiFi Calling ซึ่งทำให้สามารถใช้โทรศํพท์ โทรออก รับสายได้เหมือนอยู่ที่ไทยเลย
แถมใช้บริการได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้เพิ่มเติมอีกด้วย เสียตาม package ที่เราใช้อยู่เลย แนะนำเลยครับสำหรับใครที่มาเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมเปิดใช้บริการไว้นะ ลองดูรายละเอียดการใช้งานได้ที่นี่เลย
AIS http://www.ais.co.th/4g/vowifi/
TRUE http://truemoveh.truecorp.co.th/news/detail/198
DTAC http://www.dtac.co.th/network/wifi-calling.html
และอยากแนะนำให้เปิด roaming ไว้ด้วยนะครับ หลัก ๆ เลยเพื่อเอาไว้รับ SMS เลย อย่ามองว่า SMS ไม่สำคัญนะ อย่างกรณีนี้ ผมรู้ว่าไฟลท์ถูกเลื่อนเพราะสายการบินส่ง SMS มาอย่างแรกเลย ก่อนที่จะมี E-mail ตามมาตอนหลังอีก
ที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ